หญิงเอเชีย วัย 65 ปี ถูกกระทืบ หน้าอพาร์ทเม้นท์หรู ท่ามกลางสายตาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นิ่งเฉย เมื่อวันที่ 30 มีนาคม สำนักข่าว NBC ได้เปิดเผยกล้องวงจรปิดวินาทีที่หญิงชราเชื้อสายเอเชียวัย 65 ปีถูกทำร้ายร่างกายหน้าอพาร์ทเม้นท์หรูแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.40 ของวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น
โดยจากภาพจะเห็นได้ว่าชายผิวดำได้ทำการถีบหญิงคนดังกล่าวล้มลงไป
ก่อนจะทำการกระทืบซ้ำหลายครั้ง ท่ามกลางสายตาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยืนเฉยๆ และไม่ได้ให้ความช่วยเหลือหญิงชราคนดังกล่าวแต่อย่างใด
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่าหญิงชราคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัส และต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล อย่างไรก็ดีผู้ได้รับบาดเจ็บมีอาการทรงตัว
ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเผยแพร่ภาพผู้ก่อเหตุ และกำลังเร่งตามหาตัวอยู่ผู้ก่อเหตุ ซึ่งทางเจ้าหน้าได้วอนให้ประชาชนที่พบเห็นชายคนดังกล่าวให้รีบแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
ด้านบริษัทเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ได้ระบุว่าพวกเขาได้ทำการสั่งพักงานพนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งหมดแล้ว และจะทำการสืบสวนต่อไป
โดยอาชญากรรมทางความเกลียดชังเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโรคโควิด-19 ซึ่งจากรายงานชี้ว่าประชาชนที่มีเชื้อสายเอเชียเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 150 ตกเป็นเหยื่อเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 150
NASA เผยภาพถ่ายจากดาวเทียมเหนือ คลองสุเอซ หลังจากที่เรือกีดขวางเส้นทางค้าขาย ชี้เรือเข้าแถวยาวร้อยกิโล คลองสุเอซ – องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซา (NASA) ได้เปิดภาพดาวเทียมเหนือคลองสุเอซ ในช่วงระยะเวลาที่เรือ เอฟเวอร์กีเวน (Evergiven) เรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่เกยตื้นบริเวณคลองสุเอซ และทำให้การสัญจรติดขัด นานนับสัปดาห์ และสร้างผลกระทบกับเศรษฐกิจของโลก
โดยทาง NASA ได้นำภาพถ่ายทางอากาศมาเปรียบเทียบ โดยชี้ให้เห็นว่าช่วงระยะเวลาปกติแถวของเรือที่จ่อเทียบท่าจะไม่ยาวมาก อย่างไรก็ดีภาพถ่ายในวันที่ 27 มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากเรือขนส่งสินค้ากีดขวางคลองสุเอซ พบว่ามีเรือรอเข้าแถวยาว 72 กิโลเมตร ก่อนจะเพิ่มเติมเป็น 100 กิโลเมตร ในสองวันถัดมา
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่สามารถกู้เรือลำดังกล่าวได้สำเร็จ และสามารถกลับมาเปิดเส้นทางการเดินเรือได้อีกครั้ง แม้ว่าเส้นทางจะเปิดแล้ว แต่ก็พบว่ายังมีเรืออีก 184 ลำที่ยังคงรอต่อแถวเทียบท่าอยู่ในขณะนี้
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจนั้นน่าจะใช้เวลานานหลายสัปดาห์ หรือ อาจจะนานหลายเดือนถึงจะฟื้นฟูได้ ซึ่งข้อมูลจาก Lloyd’s List ระบุว่า สินค้าที่ตกค้างคิดเป็นความสูญเสียค่าใช้จ่ายวันละ 9,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 300,000 ล้านบาท คิดเป็นชั่วโมงละ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประมาณ 12,000 ล้านบาท
ศาลญี่ปุ่น ปรับเงินผู้ต้องหา คดี ‘ฮานะ คิมูระ’ สองพันบาท
ศาลญี่ปุ่น สั่งปรับเงินผู้ต้องหาคดี ไซเบอร์บูลลี่ ฮานะ คิมูระ เป็นจำนวนเงิน 2 พันบาท ท่ามกลางเสียงวิจารณ์หนักว่าโทษเบาเกินไป
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า ความคืบหน้าคดี ‘ไซเบอร์บูลลี่’ (Cyberbullying) ฮานะ คิมูระ นักมวยปล้ำหญิงวัย 22 ปี และหนึ่งในผู้เข้าร่วมรายการ เทอร์เรซ เฮาส์ (Terrace House) รายการเรียลริตี้โชว์ ที่จบชีวิตตัวเอง หลังจากที่เธอถูกคุกคามผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก
โดยศาลญี่ปุ่นได้ตัดสินปรับเงิน ผู้ต้องหาชายในคดีดังกล่าว เป็นเงินราวๆ 9,000 เยน หรือคิดเป็นราวๆเงินราว 2,500 บาทไทย ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากว่าโทษนั้นถือว่าเบาเกินไป พร้อมโจมตีกฎหมายประเทศญี่ปุ่นอย่างรุนแรง
สาเหตุที่โทษของผู้ต้องหาชายคนดังกล่าวเบาเนื่องศาลตัดสินให้เขามีความผิดในข้อหา สบประมาท ซึ่งตามกฎหมายของประเทศญี่ปุ่นระบุว่าผู้กระทำผิดในโทษฐานดังกล่าวจะถูกปรับเงินราวๆ 3,000 บาท
ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อธิบายแน่ชัดว่าเพราะเหตุใดผู้ต้องหาถึงไม่ถูกตัดสินให้มีความผิด ‘หมิ่นประมาท’ ซึ่งจะส่งผลให้มีโทษหนักกว่า และอาจถูกปรับเงินนับแสนบาทได้
ฮานะ คิมูระ นักมวยปล้ำหญิงจากค่ายเวิล์ด วอนเดอร์ สตาร์ดอม (World Wonder Stardom) เข้าร่วมรายการเรียลริตี้โชว์ “เทอร์เรส เฮาส์” รายการเรียลริตี้ชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น และออกอากาศผ่านทาง Netflix
โดย เธอ ถูกไซเบอร์บูลลี่อย่างรุนแรง จนนำไปสู่การปลิดชีพตนเอง หลังจากที่เธอได้ทำการตบหมวกของหนึ่งในผู้เข้าร่วมรายการ เนื่องจากคู่กรณีได้ทำชุดมวยปล้ำตัวสำคัญของเธอหด จนเธอไม่สามารถสวมได้ อย่างไรก็ตาม นาง เคียวโกะ คิมูระ ผู้เป็นแม่ได้ออกมาแฉว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการจัดฉากของรายการ
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง